หมวดหมู่: อสังหาริมทรัพย์ฯ

ดร.วิชัย


อุปทานโดยรวมภาคกลาง ครึ่งแรกปี 67 ที่อยู่อาศัยเสนอขาย 10,327 หน่วย 33,107 ล้านบาท

      REIC คาดการณ์ ปี 2567 จะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 1,326 หน่วย มูลค่า 11,407 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 1,514 หน่วย มูลค่า 9,349 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 2,326 หน่วย มูลค่า 14,469 ล้านบาท 

      อุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งหมด จำนวน 10,327 หน่วย มูลค่า 33,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ร้อยละ 7.9 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 ตามลำดับ โดยเป็นโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนเพียง  835 หน่วย มูลค่า 4,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ร้อยละ 56.4 และร้อยละ 193.0 ตามลำดับ

ขณะที่ที่อยู่อาศัยเหลือขาย ณ ครึ่งแรกปี  2567 จำนวน  9,813 หน่วย มูลค่า 31,588 ล้านบาท จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.2 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.2  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

      โดย 5 ทำเล ที่มีจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายมากที่สุดใน 2 จังหวัดภาคกลาง คือ อันดับ 1 ทำเลนิคมฯโรจนะ จำนวน 4,497 หน่วย มูลค่า 17,466 ล้านบาท อันดับ 2 ทำเลนิคมฯบางปะอิน จำนวน 1,874 หน่วย มูลค่า 4,630 ล้านบาท อันดับ 3 ทำเลเมืองสระบุรี จำนวน 1,243 หน่วย มูลค่า 4,126 ล้านบาท อันดับ 4 ทำเลวังน้อย จำนวน 967 หน่วย มูลค่า 2,242 ล้านบาท  อันดับ 5 ทำเลหนองแค จำนวน 706 หน่วย มูลค่า 1,824 ล้านบาท โดยระดับราคาที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุดคือ 2.01-3.00 ล้านบาท มีจำนวนถึง 2,936 หน่วย มูลค่า 7,666 ล้านบาท

      อุปสงค์โดยรวมภาคกลาง  พบว่าในช่วงครึ่งแรกปี 2567 มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 514 หน่วย ลดลงร้อยละ -63.4 มูลค่า 1,519 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -64.2 แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 372 หน่วย มูลค่า 1,279 ล้านบาท และอาคารชุดเพียง 142 หน่วย มูลค่า 240 ล้านบาท

ซึ่งทำเลที่มีหน่วยขายได้ใหม่สูงสุด 5 อันดับแรกคือ อันดับ 1 ทำเลนิคมฯโรจนะ จำนวน 315 หน่วย มูลค่า 984 ล้านบาท อันดับ 2 ทำเลนิคมฯบางปะอิน จำนวน 58 หน่วย มูลค่า 128 ล้านบาท อันดับ 3 ทำเลเมืองสระบุรี จำนวน 43 หน่วย มูลค่า 148 ล้านบาท  อันดับ 4 ทำเลวังน้อย จำนวน 41 หน่วย มูลค่า 113 ล้านบาท และอันดับ 5 ทำเลแก่งคอย จำนวน 21 หน่วย มูลค่า 40 ล้านบาท

 ดร.วิชัย

ภาพรวมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

      สำหรับ ครึ่งแรกปี 2567 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 7,883 หน่วย มูลค่า 26,015 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 6,926 หน่วย มูลค่า 24,517 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 957 หน่วย มูลค่า 1,498 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2567 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 451 หน่วย ลดลงร้อยละ -15.5 มูลค่า 2,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 104.3 ส่วนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่มีจำนวน 430  หน่วยลดลงร้อยละ -64.6  มูลค่า 1,293 ล้านบาท ลดลงร้อยละ

-66.0 เมื่อพิจารณาลงรายละเอียดตามรายพื้นที่ที่มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุด 3 อันดับแรกในครึ่งแรกของ ปี 2567 พบว่า

อันดับ 1 โซนนิคมฯโรจนะ จำนวน 315 หน่วย มูลค่า 984 ล้านบาท

อันดับ 2 โซนนิคมฯบางปะอิน จำนวน 58 หน่วย มูลค่า 128 ล้านบาท

อันดับ 3 โซนวังน้อย จำนวน 41 หน่วย มูลค่า 113 ล้านบาท

      เป็นที่น่าสังเกตว่าโซนนิคมฯโรจนะและโซนนิคมฯบางปะอินจะเป็นโซนที่มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุดเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 และมีอัตราดูดซับที่ร้อยละ 1.1 และ 0.5 ต่อเดือนตามลำดับ

      สำหรับ จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขาย 7,453 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 มูลค่า 24,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น

ร้อยละ 22.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 (YoY) ทั้งนี้ ทำเลที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ

อันดับ 1 โซนนิคมฯโรจนะจำนวน 4,497 หน่วย มูลค่า 17,466 ล้านบาท

อันดับ 2 โซนนิคมฯบางปะอิน จำนวน 1,874 หน่วย มูลค่า 4,630 ล้านบาท

อันดับ 3 โซนวังน้อย จำนวน 967 หน่วย มูลค่า 2,242 ล้านบาท

REIC คาดการณ์ ปี 2567 จะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 1,476 หน่วย มูลค่า 4,855 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 2,171 หน่วย มูลค่า 5,718 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 5,822 หน่วย มูลค่า 18,465 ล้านบาท

 

ภาพรวมจังหวัดสระบุรี

      สำหรับ ครึ่งแรกปี 2567 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดสระบุรี มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 2,444 หน่วย มูลค่า 7,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.5 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 2,382 หน่วย มูลค่า 7,014 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 62 หน่วย มูลค่า 78 ล้านบาท

โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาด มีจำนวน 384 หน่วย มูลค่า 1,250 ล้านบาท ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 84 หน่วย ลดลงร้อยละ -55.1 มูลค่า 227 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -49.1 เมื่อพิจารณาลงรายละเอียดตามรายพื้นที่ที่มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุด 3 อันดับแรกในครึ่งแรกของ ปี 2567 พบว่า

อันดับ 1 โซนเมืองสระบุรี จำนวน 43 หน่วย มูลค่า 148 ล้านบาท

อันดับ 2 โซนแก่งคอย จำนวน 21 หน่วย มูลค่า 40 ล้านบาท

อันดับ 3 โซนหนองแค จำนวน 20 หน่วย มูลค่า 40 ล้านบาท

      เป็นที่น่าสังเกตว่า โซนเมืองสระบุรีและโซนแก่งคอยจะเป็นโซนที่มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุดเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 และมีอัตราดูดซับอยู่ในระดับที่ร้อยละ 0.6 และ 1.0 ต่อเดือนตามลำดับ

      สำหรับ จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขาย 2,360 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8 มูลค่า 6,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 (YoY) ทั้งนี้ ทำเลที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ

อันดับ 1 โซนเมืองสระบุรี จำนวน 1,243 หน่วย มูลค่า 4,126 ล้านบาท

อันดับ 2 โซนหนองแค จำนวน 706 หน่วย มูลค่า 1,824 ล้านบาท

อันดับ 3 โซนแก่งคอย จำนวน 335 หน่วย มูลค่า 765 ล้านบาท

      REIC คาดการณ์ ปี 2567 มีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 450 หน่วย มูลค่า 1,467 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 218 หน่วย มูลค่า 509 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 2,088 หน่วย มูลค่า 5,974 ล้านบาท

      “สรุปโดยภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยภาคกลาง และตะวันตก ครึ่งแรกปี 2567 อาจกล่าวได้ว่าทั้ง 2 ภาคมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ในส่วนของตลาดภาคตะวันตกพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวโดยตรง สะท้อนผ่านตัวเลขการขายได้ใหม่ในกลุ่มของคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว แต่ยังคงต้องให้ความระมัดระวังในการเติมอุปทานใหม่เข้าไปในตลาดในพื้นที่ที่มีหน่วยสร้างเสร็จเหลือขายเป็นจำนวนมาก เช่น โซนชะอำ เนื่องจากยังมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จเหลือขายมากกว่าพันหน่วย

      แต่สำหรับในพื้นที่ภาคกลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสระบุรี ภาพรวมของตลาดยังคงอยู่ในสภาวะที่เจอปัญหากำลังซื้อที่ลงอ่อนแอซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยรวมและเศรษฐกิจท้องถิ่น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว มีการลดกำลังการผลิต และเลิกกิจการ ส่งผลให้กำลังซื้ออ่อนแอลง และกระทบกับการขายที่อยู่อาศัยในพื้นที่ ทำให้เห็นการชะลอตัวของการขายได้ใหม่ในกลุ่มของบ้านจัดสรร ทั้งที่ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมายังขายได้ดี แม้จะมีโครงการเปิดขายใหม่ แต่ก็พบว่าไม่สามารถช่วยกระตุ้นให้ยอดขายดีขึ้นได้”

      “ผู้ประกอบการควรใช้โอกาสไตรมาสสุดท้ายของมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง จัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท เพื่อเร่งระบายสต็อกที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเหลือขายที่ยังมีอยู่มากในปัจจุบัน“ดร.วิชัย กล่าวในตอนท้ายว่า

 

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

AXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!