กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานรุดหน้า

และเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter

• มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงานตามสัดส่วนการลงทุน รวม 3.0 กิกะวัตต์

• เดินหน้าขยายกำลังการผลิตในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานอย่างต่อเนื่อง

• เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการบริหารต้นทุนในกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน

• ดำเนินมาตรการบริหารกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีความพร้อมทางการเงินสำหรับการจ่ายเงินกู้ การจ่ายเงินปันผล และการลงทุนตามแผนที่วางไว้

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2562 มีรายได้จากการขายรวม 1,430 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45,188 ล้านบาท) มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) 399 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 12,608 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 32 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,011 ล้านบาท) พร้อมเปิดเผยความคืบหน้า 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน (Energy Generation) และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Energy Technology) เติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจร

เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน สามารถเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 168 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนิญถ่วน (Ninh Thuan) สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ภายใต้การดำเนินงานของซันซีป กรุ๊ป (Sunseap Group Pte. Ltd.) ผู้นำด้านการให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าของบ้านปูฯ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวรวม 65 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จีซิน (Jixin) ขนาดกำลังผลิต 25 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซู (Jiangsu) สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว โดยจะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2562 ทั้งนี้ บ้านปูฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทบ้านปูฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงานตามสัดส่วนการลงทุน รวม 3.0 กิกะวัตต์ 

สำหรับกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการด้านการวางระบบ Solar Rooftop บริเวณอาคารชาเลนเจอร์ และอาคารจอดรถ 2-3 ของศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีกำลังการผลิตรวม 1 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ปัจจุบันบ้านปูฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 89 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ บริษัท Durapower Technology (Singapore) Pte. Ltd. ในสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิต และติดตั้งระบบแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (LiB) ในอุตสาหกรรมยานยนต์และระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบ้านปูฯ ยังได้ขยายกำลังการผลิตของโรงงานที่ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว (Suzhou) สาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่มเติมจาก 80 เมกะวัตต์ชั่วโมง เป็น 380 เมกะวัตต์ชั่วโมง ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบ้านปูฯ ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในครึ่งปีแรก บ้านปูฯ มีความคืบหน้าด้านการลงทุนในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานอย่างต่อเนื่อง ตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง ที่เอื้อประโยชน์และส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่าง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก (กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน) ตลอดจนเดินหน้าวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงาน มุ่งสร้างแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานภายใน รวมถึงการมอบโซลูชันด้านพลังงานในรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

สำหรับกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน บ้านปูฯ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการบริหารต้นทุนในธุรกิจถ่านหินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ในขณะเดียวกัน ด้วยความเชื่อมั่นในทิศทางการเติบโตของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณการลงทุนจำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 15,794 ล้านบาท) สำหรับการลงทุนเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองการผลิตในปี 2562-2563 โดยเน้นลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียงกับแหล่งการผลิตเดิม สร้างกระแสเงินสดอยู่แล้ว มีกำไรที่รับรู้ได้ทันที ซึ่งคาดว่ากระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ได้อย่างแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการบริหารกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในครึ่งแรกของปี 2562 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดรวม 794 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 25,090 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากงวดสิ้นปี 2561 จำนวน187 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,909 ล้านบาท) หรือร้อยละ 31 ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมทางการเงินสำหรับการจ่ายเงินกู้ การจ่ายเงินปันผล และการลงทุนตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานและสิ่งแวดล้อมโลก และสร้างผลตอบแทนระยะยาวแก่นักลงทุน”

สำหรับผลการดำเนินงานของบ้านปูฯ ในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2562 มีรายได้จากการขายรวม 731 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,092 ล้านบาท) มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA)168 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,306 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 95 ล้านบาท) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาขายถ่านหินในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง ประกอบกับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินสกุลบาทต่อสกุลเงินเหรียญสหรัฐ

*หมายเหตุ: คำนวณโดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่

USD 1: THB 31.6001 สำหรับงบกำไรขาดทุนเฉลี่ยราย 6 เดือน

USD 1: THB 31.5890 สำหรับงบกำไรขาดทุนเฉลี่ยรายไตรมาส

Banpu Announces First Half 2019 Results

Advancing its Energy Generation and Energy Technology Groups;

Thriving under Greener & Smarter Strategy

• Total equity committed capacity of 3.0 GW from the Energy Generation group

• Gearing up for consistent capacity expansion in the Energy Technology group

• Emphasizing productivity improvement and cost management in the Energy Resources group

• Effective cash flow management measures enabling readiness of loan payment, dividend payment, and investment as planned

Banpu Public Company Limited (BANPU), a leading integrated energy solutions company in Asia-Pacific, has announced its first half of 2019 operating results with total sales revenue of USD 1.43 billion(approximately THB 45.188 billion). EBITDA (Earnings Before Interest, Taxes, Depreciation and Amortization) is reported at USD 399 million (approximately THB 12.608 billion), with net profit at USD 32 million (approximately THB 1.011 billion). Banpu has also revealed that Energy Generation and Energy Technology groups are thriving under the Greener & Smarter Strategy, fortifying Banpu’s positioning as a leading integrated energy solutions company.

Recently, the Energy Generation group has been able to expand its renewable generation capacity from a 168-MW solar power plant in Ninh Thuan, Vietnam, which has already achieved the commercial operation date (COD). The power plant is operated by Sunseap Group Pte. Ltd., a Banpu’s joint venture and a leading solar energy solutions provider in Singapore. This COD achievement has added an equity-based capacity of 65 MW to the Company. Furthermore, Banpu Power Public Company Limited, a subsidiary of Banpu, has invested into Jixin Solar Power Plant with a total capacity of 25 MW located in Jiangsu province, the People’s Republic of China. This project has already achieved the commercial operation date (COD), and it will realize income in Q3/2019. Banpu continually seeks investment opportunities to increase power generating capacity from renewable power plants according to the Company’s Greener Strategy.

As of now, Banpu Group has a total equity committed power generation capacity in Energy Generation group of 3.0 GW.

As for the Energy Technology group, Banpu is continuing to expand its solar rooftop power generation capacity. Most recently, Banpu Infinergy Company Limited, a subsidiary of Banpu, was awarded as a service provider of Solar Rooftop system installation for the Challenger Hall and Car Park Buildings 2-3 of the IMPACT Arena and IMPACT Exhibition and Convention Center, Muang Thong Thani, which has a net capacity of 1 MW. This success has raised Banpu’s equity-based capacity from the solar rooftop in Asia-Pacific to 89 MW. Apart from that, Durapower Technology (Singapore) Pte. Ltd., an associated company of Banpu in Singapore, specializing in the research and design, manufacturing and system integration of advanced lithium-ion battery technology for automotive vehicles and energy storage systems, recently increased the generation capacity of its power plant in Suzhou province in the People’s Republic of China from 80 MWh to 380 MWh. This reinforces Banpu’s commitment to the continuous development of clean energy technologies.

Ms. Somruedee Chaimongkol, Chief Executive Officer of Banpu Public Company Limited, said: “In the first half of 2019, Banpu made continuous progress in the investment in the Energy Generation and the Energy Technology groups as targeted in the Greener & Smarter strategic plan. The strategic investment plan features the creation of a robust business ecosystem comprising of three co-existing business groups (Energy Resources, Energy Generation, and Energy Technology) which are mutually beneficial to and strengthen each other. Furthermore, the plan pushes for the research and development in the energy technology and innovation, which will unfold a platform for the enhancement of corporate management efficiency as well as delivery of innovative energy solutions that cater to current consumer trends.

In Energy Resources group, Banpu has emphasized constant productivity improvement and cost management in the coal business to cushion the effect of the decline in global coal prices. Meanwhile, Banpu acted on its confidence in the future growth of the natural gas business by setting aside an investment budget worth USD 500 million (approximately THB 15.794 billion) for additional natural gas reserves during 2019–2020. The investment will emphasize on natural gas resources adjacent to Banpu’s existing resources, which have already generated cash flows and offered realized profit. This investment strategy will help Banpu to firmly expand its business according to the Greener & Smarter strategic plan.

Apart from this, with effective cash flow management measures, the Company delivered total cash flow at USD 794 million (approximately THB 25.09 billion), rising USD 187 million (approximately THB 5.909billion) or 31% increase from the year ended 31 December 2018. This prompted the Company to successfully pay for loans, dividends and investments as planned, which aim to create sustainable growth of the Company in line with global energy and environmental trends while optimizing long-term returns for investors.”

In Q2/2019, Banpu reported total sales revenue of USD 731 million (approximately THB 23.092 billion), with EBITDA of USD 168 million (approximately THB 5.306 billion). Net profit was reported at USD 3 million (approximately THB 95 million), down year-over-year due to decline in global coal prices and Thai baht appreciation against the US dollar.

*Remark: Calculation based on the following exchange rates:

USD 1: THB 31.6001 for 6-month profit and loss statement

USD 1: THB 31.5890 for quarterly profit and loss statement

AO08248

Click Donate Support Web